เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของนิวยอร์ก เยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า 1.20 เยน ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 156.06-16 เยน

นักเศรษฐศาสตร์ในญี่ปุ่นวิเคราะห์ว่า เยนอ่อนค่าลงเนื่องจากปัจจัยหลายอย่างร่วมกัน

ประการแรก ความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังคงสูง และความคาดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สหรัฐฯ มีตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในช่วงไม่นานมานี้ ทำให้แรงกดดันต่อเฟดในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นยังคงอยู่ ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เยนอ่อนค่าลง ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นยังคงใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย โดยรักษาอัตราดอกเบี้ยในระดับปัจจุบัน แม้จะมีแรงกดดันด้านเงินเฟ้ออยู่ก็ตาม ซึ่งทำให้ความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น และนำไปสู่การอ่อนค่าของเยน

ยิ่งไปกว่านั้น นโยบายการใช้จ่ายของรัฐบาลญี่ปุ่นในช่วงไม่นานมานี้ก็มีผลต่อการอ่อนค่าของเยน รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังเพิ่มการใช้จ่ายของรัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งอาจนำไปสู่การลดลงของค่าเงินเยน

ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า เยนมีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลงต่อไป เนื่องจากแรงกดดันที่สหรัฐฯ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ รวมถึงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นและนโยบายการใช้จ่ายของรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งอาจทำให้เยนอ่อนค่าลง

การอ่อนค่าของเยนอาจส่งผลดีต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นในระยะสั้น เช่น เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการส่งออกและดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น แต่ในระยะยาว อาจส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจ เช่น เพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ลดกำลังซื้อของประชาชน เป็นต้น